วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ปั่นเล่นตอนกลางคืน

ปั่นเล่นตอนกลางคืน

ปั่นเล่นตอนกลางคืน

การแข่งจักรยาน fix gear ที่เชียงใหม

เด็กพะเยายกล้อโชว์ฟิกเกียร์ 5.avi

เด็กพะเยาโชว์ฟิกเกียร์ 4.avi

ปั่นจักรยานเล่นนุกๆ

พูดคุยถึงจักรยาน FIXED GEAR

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ประเภทการแข่งขันจักรยาน

การแข่งขันจักรยานประเภท คีลิน "Keirin"
                การแข่งขันจักรยานประเภท คีลิน "Keirin" นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ป่น ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ 1948 และมีการบรรจุเข้าไปในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี ค.ศ 2000 โดยรูปแบบของการแข่งขันนั้นจะมีการปล่อยตัวนักีฬาจักรยานคลาวละ 6-9 คน และต้องมีการจับฉลากหาตำแหน่งในการขี่ คือหมายความว่า ใครจะเป็นผู้นำ หรือผู้ตาม โดยนักกีฬาจักรยานทั้งหมดต้องขี่ตาม มอเตอร์ไซไฟฟ้าโดยเรียงตามลำดับที่ตัวเองจับฉลากได้ โดยทั่วไปแล้วการแข่งขันจักรยานประเภท คีลินนั้นจะใช้ระยะทางประมาน 2000 เมตร โดยนักกีฬาทุกคนต้องปั่นตาม มอเตอร์ไซไฟฟ้า ไปจนกระทั่งเหลือระยะทางก่อนเข้าเส้นชัยประมาน 700 เมตรนักปั่นจักรยานทุกคนก็เริ่มปั่นด้วยตัวเอง เพื่อให้ตัวเองนั้นเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ให้ได้ ในบางรายการนั้น ความเร็วตอนเข้าเส้นชัยนั้นอาจจะสูงกว่า 70 ก.ม./ช.ม การแข่งขันจักรยานประเภทนี้จึงมีความตื่นเต้นมากสำหรับท่านผู้ชม เพราะใช้ความเร็วในการแข่งขันที่สูงมาก จึงทำให้โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันนั้นสูงขึ้นไปด้วยครับ



การแข่งขันจักรยานประเภท พ้อย เรซ
                การแข่งจักรยานประเภทนี้จะทำการแข่งขันกันใน เวลโลโดม โดยได้มีการบรรจุการแข่งขันประเภทนี้เข้าไปในกีฬาโอลิมปิก ในปี 1984-2008 สำหรับการแข่งขันประเภทชาย ส่วนประเภทหญิงนั้นได้มีการบรรจุเข้าไปในการแข่งขันจักรยานในกีฬาโอลิมปิก เมื่อ ปี ค.ศ 1996-2008 ในการแข่งขันจักรยานประเภทนี้นั้นโดยทั่วไปแล้วจะใช้ระยะทางในการแข่งขันประมาน 120-160 รอบสนาม โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการแข่งขันประมาน 40 กว่านาที โดยจะใช้การนับคะแนนจากผู้ที่ ชนะการสปริ้น ทุกๆ 10 รอบ โดยผู้ที่สปริ้นเข้าที่ 1 จะได้ 5 คะแนน ที่2 ได้ 4 คะแนน ที่ 3 ได้ 2 คะแนน ที่ 4 ได้ 1 คะแนน ตามลำดับ โดย นอกเหนือจากนั้นจะไม่ได้คะแนน และ ผู้ที่สามารถ ขี่มาน็อครอบคนอื่นได้จะได้คะแนน พิเศษ 20 คะแนน แต่การที่จะขี่มาน็อครอบนักกีฬาคนอื่นๆ นั้นยากมากครับ เพราะถ้าไม่แข็งแกร่งจริงๆ และ ไม่สามารถหาจังหวะการหนีที่เหมาะสมแล้วจะก็จะโดนนักปั่นจักรยานในกลุ่มที่ตามมา สวนกลับได้ง่ายๆ

ส่วนตัวแล้วผมเคยแข่งขันจักรยานประเภทนี้มาก่อน ตอนนั้นผมอายุประมาน 19 ปี เป็นการแข่งขันกีฬา เขต 5 เพื่อคัดตัวนักกีฬาจักรยานไปแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ตอนนั้นผมฟิตมาก แต่ในการแข่งขันครั้งนั้นทีมคู่แข่งของผม มีดีกรีเป็นถึงทีมชาติเขามีประสบการณ์ในการแข่งขันเยอะกว่าผมหลายปีครับ เรียกว่ากระดูกคนละเบอร์เลยก็ว่าได้ครับ ช่วงเราแรกในการแข่งขัน ผมกับพี่เขาผลัดกันสปริ้นเข้าที่หนึ่ง อยู่หลายหน แต่คะแนนผมยังเป็นรองพี่เข้าอยู่ พอการแข่งขันถึงช่วงกลางของระยะทางทั้งหมดผมคิดในใจว่าถ้าผมไม่หนีเดี่ยวผมต้องแพ้ แน่ๆ ถึงช่วงนี้ก็เหลือผมกับพี่เขาสองคน ที่แข่งกันแบบเอาเป็นเอาตายเพราะนักกีฬาจักรยานจากทีมอื่นๆ โดนผมกับพี่เขาน็อครอบไปแล้ว ถ้าจบการแข่งขันครั้งนี้ผมกับพี่เขาใครคนหนึ่งต้องได้เหรียญทองมาครองแน่นอน แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในช่วงการสปริ้นรอบท้ายๆ โดยผมสปริ้นแซงพี่เขาขึ้นมาเพื่อที่ผมต้องการจะเข้าโค้งได้ก่อนตอนนั้นความเร็วตอนเข้าโค้งมันสูงมาก ปรากฎว่ายางรถจักรยานของผมมันหลุดออกจากขอบครับ ผมเลยล้ม ส่วนพี่ทีมชาติที่ตามผมมา ก็ชนผมเข้าไปแบบเต็มๆ ล้มกันทั้งคู่ครับ แต่ผมก็รีบลุกขึ้นมาจับจักรยานมาขี่ต่อนะครับ พี่เขาก็เหมือนกัน สรุปการแข่งขันครั้งนั้นผมได้เหรียญเงิน พี่เขาได้เหรียญทอง แต่ที่ได้ไปเหมือนกันทั้งคู่คือ แผลจากการล้มในครั้งนั้น เป็นหมูแดงไปครึ่งตัวเลยครับ รักษาแผลเกือบ 2 เดือนกว่าจะหาย ถึงจะได้แผลยังไงผมก็ยังรักการขี่จักรยานไม่เสื่อมคลายครับ





การแข่งขันจักรยานประเภท ทีมสปริ้น
            การแข่งขันจักรยานประเภทนี้ จัดอยู่ในการแข่งขันจักรยานประเภทลู่โดยจะทำการแข่งขันกันในเวลโลโดมโดยจะใช้ระยะทางในการแข่งขัน 3 รอบสนาม สำหรับทีมชาย และ 2 รอบสนาม สำหรับทีม หญิง โดยแต่ละทีมจะสามารถส่งนักปั่นจักรยานลงทำการแข่งขันได้ทีมละ 3 คน สำหรับทีมชาย และ 2 คนสำหรับทีมหญิง รูปแบบการแข่งขันจักรยาน ประเภทนี้คือ จะทำการปล่อยตัวนักกีฬา ทั้ง 2 ทีมพร้อมกันแต่จะปล่อยคนละฟากสนาม นักปั่นของแต่ละทีมจะมีรูปแบบการปั่นคือ ทั่ง 3 คนจะออกตัวพร้อมกัน โดยพอปั่นครบ 1 รอบนักปั่นคนแรก ก็จะปล่อยตัวเองหลุดไปเพราะทำการนำมา 1 รอบแล้ว พอเข้ารอบที่ 2 นักปั่นคนที่ 2 ก็จะเป็นผู้ขึ้นมาปั่นนำแทนเพื่อลากนักปั่นคนที่ 3 ต่อไปจนครบรอบที่ 2 พอเข้ารอบที่ 3 คราวนี้คนที่ 3 ต้องปั่นเองเพื่อเข้าเส้นชัย โดยในการตัดสินแพ้หรือว่าชนะนั้นทีมใดทำเวลาน้อยที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะการแข่งขัน โดยตอนนี้ สถิติโลกสำหรับการแข่งขันจักรยานประเภททีมสปริ้นนั้นมีดังนี้ครับ
ประเภททีมชาย ระยะทาง 3 รอบสนาม เวลาที่ทำได้ 42.950 วินาที โดยทีมชาติ อังกฤษ โดยทำไว้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศจีน ปี ค.ศ 2008 โดยมีรายชื่อของนักปั่นจักรยานในทีม ดังนี้

Chris  HoyJason  KennyJamie Staff

ประเภททีมหญิง ระยะทาง 2 รอบสนาม เวลาที่ทำได้ 32.923 วินาที โดยทีมชาติ ออสเตรเลีย โดยทำไว้ในการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลก ที่ประเทศ เดนมาร์ก ในปี ค.ศ 2010 โดยมีรายชื่อของนักปั่นจักรยานในทีม ดังนี้Kaarle  McCullochAnna  Meares

ส่วนวีดีโอการแข่งขันจักรยานประเภททีมสปริ้นนั้นอยู่ข้างล่างนี้แล้วนำมาจาก Youtub เชิญชมได้เลยครับ



การแข่งขันจักรยานประเภท เดี่ยวเปอร์ซูท
                การแข่งขันจักรยานประเภท (Individual pursuit) จะทำการแข่งขันกันในเวลโลโดมโดยจะใช้ระยะทางในการแข่งขัน 4 กิโลเมตร สำหรับประเภทชาย และ 3 กิโลเมตร สำหรับประเภทหญิง รูปแบบการแข่งขันจักรยาน ประเภทนี้คือ จะทำการปล่อยตัวนักกีฬา ทั้ง 2 ทีมพร้อมกันแต่จะปล่อยคนละฟากสนาม โดยในการตัดสินแพ้หรือว่าชนะนั้นทีมใดทำเวลาน้อยที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะการแข่งขัน โดยตอนนี้ สถิติโลกสำหรับการแข่งขันจักรยานประเภทเดี่ยวเปอร์ซูทนั้นมีดังนี้ครับ
ประเภทชายระยะทาง 4000 เมตร เวลา 4:11.114 นาที โดยทีมชาติ อังกฤษ โดยทำไว้ในการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอังกฤษ ปี ค.ศ 1996 โดยมีรายชื่อของนักปั่นจักรยาน คือ Chris Boardman


การแข่งขันจักรยาน ประเภท Team pursuit
การแข่งขันจักรยาน ประเภท Team pursuit (Competition Cycling Team pursuit)การแข่งขันจักรยานประเภทนี้ จะทำการแข่งขันกันในเวลโลโดมโดยจะใช้ระยะทางในการแข่งขัน 4 กิโลเมตร สำหรับทีมชาย และ 3 กิโลเมตร สำหรับทีม หญิง โดยแต่ละทีมจะสามารถส่งนักปั่นจักรยานลงทำการแข่งขันได้ทีมละ 4 คน โดยรูปแบบการแข่งขันจักรยานประเภทนี้คือ จะทำการปล่อยตัวนักกีฬา ทั้ง 2 ทีมพร้อมกันแต่จะปล่อยคนละฟากสนาม โดยในการตัดสินแพ้หรือว่าชนะนั้นคือทีมใดทำเวลาน้อยที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะการแข่งขัน โดยจะทำการจับเวลาของผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3 ของแต่ละทีม โดยตอนนี้ สถิติโลกสำหรับการแข่งขันจักรยานประเภททีม เปอร์ซูทนั้นมีดังนี้ครับ
ประเภททีมชายระยะทาง 4000 เมตร เวลา 3:53.314 นาที โดยทีมชาติ อังกฤษ โดยทำไว้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศจีน ปี ค.ศ 2008 โดยมีรายชื่อของนักปั่นจักรยานในทีม คือ
Ed ClancyPaul ManningGeraint ThomasBradley Wiggins
ประเภททีมหญิงระยะทาง 3000 เมตร เวลา 3:19.569 นาที โดยทีมชาติ สหรัฐ โดยทำไว้ในการแข่งขันกีฬา ชิงแชมป์แพนอเมริกัน (Pan American Championships) ที่ประเทศ เม็กซิโก ในปี ค.ศ 2010 โดยมีรายชื่อของนักปั่นจักรยานในทีม ดังนี้
Dotsie BauschSarah Hammer Lauren Tamayo

 
การแข่งขันจักรยานเสือภูเขา (Mountain bike racing)
          การแข่งขันจักรยานเสือภูเขา (Mountain bike racing) นั้นได้รับการรับรองจาก สมาคมจักรยานนานาชาติ (UCI) ในปีค.ศ 1990, และได้เริ่มมีการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปีค.ศ 1991 โดยรายการแรกนั้นทำการแข่งขันใน ยุโรป และ อเมริกาเหนือ โดยทำการแยกเป็น 9 สนามด้วยกันรายการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท จากเยอรมัน คือ Grundig
การแข่งขันจักรยานเสือภูเขา นั้นสามารถแบ่งได้ตามประเภทของการแข่งขันดังนี้
แบบ Cross-country การแข่งขันจักรยานประเภทนี้จะใช้ระยะทางที่ทำการแข่งขันประมาน 6-8 ก.ม สำหรับนักแข่งจักรยานสมัครเล่น แต่ถ้าเป็นระดับโปรนั้นจะใช้ระยะทางในการแข่งขันประมาน 50 ก.ม โดยจะทำการปล่อยตัวนักปั่นจักรยานแบบ massed-start
แบบ Short track Cross-country การแข่งขันประเภทนี้จะใช้ระยะทางสั้นมากประมาน 800 เมตร ถึงระยะทางในการแข่งขันจะสั้นมาก และใช้เวลาในการทำการแข่งขันประมาน นาทีกว่าๆ แต่การแข่งขันจักรยานประเภทนี้นั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและน่าสนใจตลอดระยะเวลาที่นักแข่งกำลังทำการแข่งขัน
แบบ Downhill การแข่งขันประเภทนี้จะทำการแข่งขันในภูมิประเทศที่มีความสูงชัน โดยปล่อยตัวนักแข่งจักรยานทีละ 1 คนโดยเว้นระยะห่างระหว่างแต่ละคนตั้งแต่ 30 วินาทีไปจนถึง 3 นาทีแล้วแต่ลักษณะของสนามที่ใช้ทำการแข่งขัน และ ผู้จัดการแข่งขัน โดยนักแข่งจะเริ่มจากจุดเริ่มต้นบนเขาลงมาเข้าเส้นชัยทางด้านเชิงเขา โดยผู้ที่ทำเวลาได้น้อยที่สุดจะเป็นผู้ชนะการแข่งขันประเภทนี้
แบบ Super D การแข่งขันจักรยานประเภทนี้จะเป็นการผสมผสานกันระหว่าง แบบ Cross-country และ Downhill ดังนั้นลักษณะของสนามที่ใช้ทำการแข่งขัน จะมีทั้ง ทางลงเขา และ ขึ้นเขา ในการปล่อยตัวนักแข่งสำหรับการแข่งขันประเภทนี้นั้น จะทำการปล่อยทีละ คน หรือ ปล่อยตัวแบบ เป็นกลุ่ม ก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้จัดการแข่งขัน
แบบ Freeride การแข่งขันประเภทนี้ลักษณะของสนามจะมีสิ่งกีดขวางเพิ่มเข้าไป คือมันจะคล้ายๆ กับสนามที่ใช้ทำการแข่งขันจักรยานBMX
แบบ Dual Slalom การแข่งขันจักรยานประเภทนี้นั้นได้รับแรงบรรดาลใจมาจากการแข่งขัน สกี แบบ Slalom โดยนักแข่ง จะถูกปล่อยตัวลงมาพร้อมกันทีละ คู่ แล้วใครเข้าเส้นชัยก่อนเป็นผู้ชนะ
การแข่งขันจักรยานเสือภูเขานั้นยังมีอีกหลายประเภทครับ ยกตัวอย่างเช่่น Four cross, Marathon, Enduro, Stage Races, Bike trials, Dirt Jumping และ Mountain bike orienteering Federation ส่วนรายละเอียดของแต่ประเภทผมจะนำมา update ให้ภายหลังนะครับ ขอบคุณครับ

การแข่งขันจักรยานเสือหมอบ
             การแข่งขันจักรยานเสือหมอบ การแข่งขันนั้นสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ครับ การแข่งขันจักรยานประเภทถนน และ การแข่งขันจักรยานประเภทลู่
1. การแข่งขันจักรยานประเภทถนน นั้นสามารถแยกออกได้อีก 3 ประเภทย่อยๆ
1.1 การแข่งแบบวันเดียวจบ (single day race) จะเป็นการจัดการแข่งขันโดยจะจบการแข่งขันภายในวันเดียว แล้วเป็นอันจบรายการ ผู้ชนะก็รับรางวัลกลับบ้านไปเลยภายในวันเดียวกันนั้นเลยครับ การจัดการแข่งขันแบบนี้สามารถแยกออกได้อีก 4 ประเภทดังนี้ครับ
1.1.1 ประเภท Criterium จะเป็นการแข่งขันจักรยานโดยใช้ระยะทางสั้นๆ โดยปรกติจะใช้ระยะทางไม่เกิน 5 ก.ม มักจะแข่งขันกันในเมืองโดยการขี่แขันกันไปรอบๆเมือง การแข่งประเภทนี้จะปล่อยนักแข่งจากจุดเริ่มต้นแบบเป็นกลุ่มหรือที่เราเรียกว่า "mass start"
1.1.2 ประเภท Circuit race จะเป็นการแข่งขันจักรยานโดยใช้ระยะทางปานกลาง โดยปรกติจะใช้ระยะทางประมาน 5 - 10 ก.ม การแข่งประเภทนี้จะปล่อยนักแข่งจากจุดเริ่มต้นแบบเป็นกลุ่มหรือที่เราเรียกว่า "mass start"
1.1.3 ประเภท Road race จะเป็นการแข่งขันโดยใช้ระยะทางค่อนข้างยาว โดยทั่วไปแล้วการแข่งขันจักรยานประเภทนี้จะมีระยะการแข่งทางการแข่งขันมากกว่า 60 ก.ม ขึ้นไป รูปแบบการแข่งขันนั้นสามารถแข่งแบบเป็นรอบๆ หรือจะจัดแบบจุดเริ่มต้นแล้วไปถึงเส้นชัยโดยใช้เส้นทางแบบทางไกลก็ได้ การแข่งจักรยานประเภทนี้จะปล่อยนักแข่งจากจุดเริ่มต้นแบบเป็นกลุ่มหรือที่เราเรียกว่า "mass start"
1.1.4 ประเภท Time trial จะเป็นการแข่งขันโดยใช้ระยะทางปานกลาง โดยปรกติจะใช้ระยะทางประมาน 20 - 50 ก.ม การแข่งประเภทนี้จะปล่อยนักแข่งจากจุดเริ่มต้นแบบปล่อยที่ละ 1 คนหรือที่เราเรียกว่าแบบ "solo start" หลายคนคงคุ้นเคยกับการแข่งขันจักรยานแบบนี้เป็นอย่างดีครับ มันเป็นการแข่งขันเพื่อพิสูจความแข่งแกร่งของนักปั่นโดยแท้ครับ โดยส่วนตัวผมชอบมากครับ เพราะมันทดสอบความสามารถที่แท้จริงของเราจริงๆ ประเภทคอยดูด คอยจี้หมดสิทธิครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมากินแรง ถ้าไม่แน่ ไม่เหนียวจริง ยากที่จะคว้าชัยชนะมาครับ
1.2 การแข่งขันแบบสเตจ (Stage races) การแข่งขันจักรยานประเภทนี้หลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้วครับ ยกตัวอย่างเช่น Tour Of Thailand, Tour De France และ อีกหลายรายการครับ การแข่งขันแบบนี้ จะแบ่งการแข่งขันออกเป็นหลาย Stages แล้วใครทำเวลารวมแล้วน้อยที่สุดก็จะชนะไปตามระเบียบครับ
1.3 การแข่งขันแบบอัลตร้ามาราธอน (Ultra marathon) จะเป็นการแข่งขันเพียง Stage เดียวแต่ระยะทางนั้นเรียวได้ว่า "โค ตะ ละ" ยาวครับเพราะระยะทางที่ใช้แข่งขันจักรยานประเภทนี้นั้นประมาน 3,000 ไมล์ ลองเอามาคูณด้วย 1.6 ก.ม แล้วได้เป็น 4,800 ก.ม คิดแล้วเพรียแทนนักแข่งเลยครับ รายการแข่งที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างคือ "Race Across America" รายการแข่งขันนี้จัดขึ้นโดย "The Ultra Marathon Cycling Association"
2. การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ การแข่งขันจักรยานประเภทนี้ส่วนมากจะแข่งขันกันใน เวลโลโดม (velodromes) และ ยังสามารถแยก ได้ อีก สอง ประเภทหลักๆ ครับ แบบ สปริ้น (Sprint races) และ (Endurance races)














ประเภทหญิงระยะทาง 3000 เมตร เวลา 3:22.269 นาที โดยทีมชาติ สหรัฐ โดยทำไว้ในการแข่งขันจักรยานรายการ ชิงแชมป์แพนอเมริกัน (Pan American Championships) ที่ประเทศ เม็กซิโก ในปี ค.ศ 2010 โดยมีรายชื่อของนักปั่นจักรยาน คือ Sarah Hammer





























ภาษาจักรยาน

ภาษา จักรยาน ที่ท่าคุ้นเคย
                คำศัพท์ หรือภาษาที่ผมคิดว่าทุกท่านน่าจะคุ้นหูกันพอสมควร และที่ผมจะมานำเสนอนี้ เป็นศัพท์ที่ทุกท่านอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ถ้าหากท่านได้ไปปั่น จักรยาน กับกลุ่มเพื่อนๆ หรือปั่นกับกลุ่มอื่นๆ หรือชมรมที่มีแต่คนแรงๆ แต่ผู้ที่เข้ามาในวงการ จักรยาน ใหม่ๆ หรืออาจเรียกว่า มือใหม่นั้นอาจจะยังไม่เคยได้ยินหรือไม่คุ้นหูเท่าไหล่ แต่พอท่านปั่นไปนานๆ ก็จะรู้เองว่าศัพท์ที่ผมนำมา แบ่งปันนั้นเขาใช้กันจริงๆ นะครับ อาจจะพูดในใจ หรือพูดกันในหมู่เพื่อนที่ร่วมปั่นด้วยกัน ทั้งต่อหน้า และลับหลัง หรือที่เขาเรียกว่า นินทาลับหลังนั่นแหละครับ งั้นเรามารู้จักศัพท์ต่างๆ กันเลยครับ
"หลุด" คำนี้นักปั่นจักรยานไม่ว่า มือเก๋า หรือมือใหม่ต้องคุ้นเคยกับคำ


"หลุด" คำนี้นักปั่นจักรยานไม่ว่า มือเก๋า หรือมือใหม่ต้องคุ้นเคยกับคำ คำนี้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นเด็กใหม่ หรือ ผู้ที่ไม่ค่อยได้ซ้อมบ่อยๆ แล้วละก็คำนี้มันชั่งเป็นคำที่ทุกท่านไม่ชอบเลย ยิ่งถ้าไปเจอพวกเพื่อนๆ ที่แรงๆ แล้วแทบไม่อยากออกไปขี่ด้วยเลย ลักษณะ ที่สำคัญของคำว่า "หลุด" คือ เราปั่นไปพร้อมกับกลุ่มไปได้สักพัก พอเพื่อนในกลุ่มแร่งความเร็วในการปั่นจักรยานขึ่นไปเลื่อยๆ จนไปถึงความเร็วที่เราไม่สามารถทนอยู่ได้ แล้วเราก็เลยหลุดออกจากกลุ่มแล้วมองกลุ่มที่กำลังปั่นด้วยความเร็วสูงค่อยๆ หายไป ทีละน้อยๆ ต่อหน้าต่อตามันชั่งเป็นคำที่บาดใจเสียเหลือเกิน ดังนั้นเราควรกลับมาซ้อม หรือเตรียมพร้อมตัวเองให้ดีกว่าเดิม เพื่อกลับไปขี่จะได้ไม่หลุดจากกลุ่มนั่นเอง นี่คือวิธีแก้ไขครับ
"จี้" คำนี้หลายท่านคงชอบนะครับ มันไม่ได้หมายถึงการไป จี้ หรือ ไปปล้นใครนะครับ ที่ถูกต้องแล้วมัน หมายถึงการที่ขี่ตามเพื่อนนักปั่นแบบใกล้ๆ ยิ่งใกล้เท่าไหล่เรายิ่งเสียแรงในการปั่นจักรยานน้อยลงเท่านั้น เพราะผู้ที่ขี่อยู่ข้างหน้าเราจะเป็นตัวที่บังลม หรืออากาศไม่ให้มาประทะกับเราทำให้เรา ใช้แรงในการปั่นน้อยลง ยิ่งเวลาระหว่างการแข่งขันด้วยแล้ว การจี้ จะถูกนำมาใช้กันมาก แต่เวลาทำการฝึกซ้อมเราไม่ควร จี้ ให้มากนักนะครับ นอกจากเราจะไม่แข็งแกร่งขึ้นแล้ว เรายังจะเป็นที่รังเกียจของเพื่อนๆ ที่ร่วมซ้อมกับเราเพราะเราไปกินแรงเขามากเกินไป แต่ถ้าเรามีเหตุผลในการจี้อย่างเดียวก็ควร อธิบายให้เพื่อนในกลุ่มได้รู้ก่อนออกไปฝึกซ้อม ได้จะดีมากครับ เพื่อนๆ จะได้เข้าใจ และไม่คิดกับเราในด้านลบ
"เฆี่ยน" คำนี้ในวงการจักรยานนั้นหมายถึง นักปั่นจักรยานที่มีความฟิตมากๆ ไปขี่กับนักปั่นคนอื่นๆ แล้วตัวเองขี่ด้วยความเร็วสูงมากๆเพื่อหวังว่าคนอื่น หรือนักปั่นคนอื่นจะหลุด จากการที่ตัวเองขี่ด้วยความเร็วสูง อันที่จริงแล้วตามมารยาทในการฝึกซ้อมไม่ควรใช้ครับ การเฆี่ยน ควรใช้ในการแข่งขันมากกว่า ถ้าท่านแรงจริงควรไปเจอกันในระหว่างแข่งขันไม่ใช่ว่าไปทำคนที่แรงน้อยๆ หรือเด็กใหม่ครับไม่งั้นถ้าท่านทำบ่อยๆ อาจจะมีคนหมั่นไส้ และ ท่านจะเจอกับคำที่ผมจะนำเสนอต่อไป
"สวน" คำนี้มีไว้สำหลับผู้ที่ทำการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี จนมีแรงแบบเหลือๆ แต่ท่านควรใช้ในเหตุการณ์ที่สมควรด้วยนะครับ และถ้าท่านเจอนักปั่นจักรยานที่มีนิสัยตามข้อ 3 เราอนุญาติให้ท่าน สวน ได้เลยครับตามสบายครับ แต่ต้องสวนให้เขาผู้นั้นหลุด ไปเลยนะครับ เรียกว่าเป็นการบอกให้เขาผู้นั้นรู้เป็นนัยๆ ว่าคนแรงกว่าท่านยังมีอีกเยอะ การ สวน คนอื่นนั้นถ้าเราคิดว่าเราไม่พร้อมหรือไม่แรงจริงอย่าทำ ครับเพราะเราจะเป็นฝ่ายที่ถูกสวนกลับ และกลายเป็นผู้ที่หลุดจากกลุ่มเอง

ภาษาในกลุ่มนักปั่นจักรยานยังมีอีกเยอะแยะครับไว้วันหน้าวันหลังถ้าผมว่างๆ จะเอา ศัพท์ แปลกๆ ตลกๆ มากฝากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อีกนะครับวันนี้ขอจบบทความนี้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ บทความนี้ถึงจะไม่ค่อยมีสาระเท่าไหล่ แต่ก็คิดเสียว่าอ่านให้ได้คลายเคลียดกันก็พอครับ ขอบคุณครับ

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ประเภทจักรยาน

จักรยานฟิกเกียร์                                                                                                                                              
            
จักรยานประเภทนี้นั้น จะมีความคล้ายคลึงกับจักรยานที่ใช้สำหรับแข่งขันในประเภทลู่ แต่ถูกผลิตหรือดัดแปลงมาเพื่อใช้บนถนนทั่วไป จักรยานประเภทนี้จะไม่มีเกียร์ คือจะมีเฟืองหลังเพียงอันเดียว และที่สำคัญมันฟรีเท้าไม่ได้นะครับ ในปัจจุบันผมเห็นกลุ่มวัยรุ่นหันมาขี่จักรยานฟิกเกียร์กันเยอะพอสมควร แต่เห็นว่า จักรยาน ประเภทฟิกเกียร์ที่ใช้บนท้องถนนนั้น ได้เข้ามาในเมืองไทยหลายปีแล้วครับแต่ได้รับความนิยมเพียงกลุ่มเล็กๆ เช่นนักเรียน หรือผู้ที่ไปศึกษาที่ต่างประเทศพอเรียนจบกลับบ้านที่ประเทศไทยก็จะนำจักรยานของตัวเองกลับมาด้วย เพื่อเอามาปั่นในเมืองไทย แต่ในต่างประเทศนั้นจักรยานฟิกเกียร์นั้นโดย ทั่วไปแล้วจะเป็นจักรยานที่เขาใช้ในการส่งเอกสาร หรือผู้ที่ทำงานทางด้านส่งเอกสารระหว่างบริษัทที่มีระยะทางไม่ไกลมากนัก...
จักรยานครุยเซอร์    
              จักรยานครุยเซอร์ (
Cruiser Bike) จักรยานประเภทนี้ส่วนใหญ่จะใช้ขี่เทื่ยวตามชายหาด หรือ ชายทะเล ลักษณะจะเป็นจักรยาน เฟืองเดี่ยว (single-speed) หรือ บางตัวแทนจำหน่ายจะนำมาใส่ระบบเกียร์เพิ่มเข้าไปเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้า ส่วนทางด้านตัวถัง หรือ เฟลมส่วนใหญ่จะผลิตมาจากเหล็ก จึงทำให้จักรยานครุยเซอร์นั้นมีน้ำหนักเยอะพอสมควร จักรยานครุยเซอร์นั้นได้รับความนิยมมาก ในประเทศสหรัฐ ช่วง ปี 1930 ถึง 1950 และ ได้รับความนิยมมาเลื่อยๆ จนถึง ปี 1990    จักรยานครุยเซอร์ นั้นในบ้านเราไม่ค่อยมีให้พบเห็นกันมากเท่าไหล่ แต่ก็มีกลุ่มที่ขี่จักรยานประเภทนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่มากเท่ากับจักรยานเสือหมอบ และ...
จักรยาน BMX    
                จักรยาน BMX หรือ "Bicycle motocross" เป็นจักรยานที่เราๆ ท่านๆส่วนมากจะรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็กๆ ไปจนถึงวัยรุ่น จักรยาน BMX นั้นชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นจักรยาน วิบากใช้ได้ทุกสภาพถนนอยู่แล้วครับ ตั้งแต่ทางเรียบๆ ไปจนถึงทางวิบากมากๆ เรื่องความแข็งแรงไม่ต้องบรรยายให้มากครับ แข็งแกร่งสุดๆ ในปัจจุบันจักรยาน BMX มีการพัฒนาไปมาก ต่างจากสมัยตอน ผมยังเด็กก็เคยขี่ จักรยาน BMX เหมือนกัน จำความได้ตอนนั้นผมอายุประมาน 13 ปี กำลังเรียนอยู่ ม. 1 พอดี ผมต้องอ้อนพ่ออยู่หลายอาทิตย์ครับกว่าที่ท่านจะยอมซื้อให้ ในสมัยนั้น จักรยาน BMX ยังไม่ค่อยมีใครได้ขี่มากเพราะราคาค้อนข้างจะแพง คือถ้าใครได้ขี่ในตอนนั้น คือเท่สุดๆ ครับนึกแล้วก็ตลก.
จักรยาน"Recumbent Bike"    
จักรยานเอกเขนก (Recumbent Bike) จักรยานประเภทนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขี่มีความสะดวกสบายมากที่สุด คือ ผู้ขี่นั้นแทบจะนอนขี่เลยละครับ ภาษาชาวบ้านพูดกันเล่นๆ ก็ทำนองว่า "นอนมา" ละครับ จักรยานประเภทนี้ จะได้เปรียบกว่าจักรยานประเภทอื่นๆ ทางด้าน ความลู่ลม เพราะผู้ขี่นั้นแทบจะนอนอยู่แล้วจึงทำให้มีส่วนที่ประทะกับลมน้อยกว่าจักรยานประเภทอื่นครับ ทางด้านอุปกรณ์นั้นจักรยานประเภทนี้ จะมีจุดติดตั้งอะไหล่ต่างๆ แตกต่างจากจักรยานประเภทอื่นมากครับ ยกตัวอย่าง เช่น จานหน้า ก็จะอยู่หน้าจริง"อย่างนี้ซิถึงเรียกว่าจานหน้าของจริง"    ส่วนทางด้านอุปกรณ์อื่นๆนั้นก็แล้วแต่เจ้าของรถเลยครับ ว่าต้องการความสบายมากน้อยแค่ไหน...


จักรยาน Cyclo cross bike
การแข่งจักรยาน Cyclo cross    จักรยาน Cyclo Cross (Cyclo cross bike) จักรยานประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการแข่ง "Cyclo Cross" โดยเฉพาะ ลักษณะของจักรยานประเภทนี้จะคล้ายๆ กับจักรยานเสือหมอบ แต่จะต่างกัน ตรงที่ ยาง และ เฟลมของรถ ยางจะมีลักษณะ กว้าง และ ใหญ่กว่าจักรยานเสือหมอบ เฟลมก็จะยาวกว่าจักรยานเสือหมอบเล็กน้อย ส่วนทางด้านเกียร์นั้นจะมีหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของสนามแข่งขัน จักรยานประเภทนี้จะมีน้ำหนักเบา ส่วนมากจะทำมาจากอลูมิเนียม หรือ คาร์บอนไฟเบอร์ เพราะเวลาแข่งขันบางช่วงผู้ ที่เข้าแข่งขันต้องลงจากจักรยานและแบก รถจักรยานของตนวิ่ง เพราะการแข่งขันประเภทนี้ จะมีสิ่งกีดขวางด้วย...
Touring Bike "จักรยานท่องเที่ยว"  
จักรยานท่องเที่ยว (Touring Bike) จักรยานประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสำหรับการขี่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะลักษณะจะคล้ายกับจักรยานเสือหมอบ แต่ จักรยานท่องเที่ยวจะเน้นให้ผู้ขี่นั้นได้รับความสะดวกสบายมากกว่าจักรยานเสือหมอบ และ จักรยานประเภทอื่นๆ จักรยานท่องเที่ยวนั้นจะมีจุดยึด เพื่อที่จะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเดินทางเข้าไป เช่น กระเป๋าสัมภาระ และ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเดินทางไกล เรียกว่าแบกสัมภาระ เลยก็ได้ครับ ดังนั้น จักรยานประเภทนี้จึงต้องมีความแข็งแรงพอสมควร จึงทำไห้จักรยานประเภทนี้มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะกว่าจักรยานประเภทอื่นๆ หลายคนคงเคยเห็นชาวต่างชาติปั่นจักรยานประเภทนี้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ

Messenger Bike  
จักรยานส่งเอกสาร (Messenger bike) จักรยานประเภทนี้ส่วนมากจะพบเห็นได้มากในเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง จุดประสงค์ คือใช้ส่งเอกสารที่มีความเร่งด่วนระหว่างบริษัท โดยทางด้านรูปทรงแล้วจักรยานประเภทนี้จะเน้นความคล่องตัวเป็นหลัก ลักษณะก็จะคล้ายๆกับพวก จักรยานเสือหมอบ และ จักรยาน (Fixed bike) ส่วนระบบเกียร์นั้นจะมีหรือไม่ก็ได้แล้วแต่ ผู้ที่ใช้ แต่ที่ต้องมีเลยคือ เบรค เพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าใครมั่นใจว่าระดับเทพก็ไม่ต้องมีเบรคก็ได้ไม่ว่ากัน    ส่วนในเมืองไทย ไม่ค่อยมีใครใช้จักรยานในการส่งเอกสารมากเท่าใหล่ แต่ถ้ามีก็จะน้อยมาก ส่วนมากจะพบเห็นได้ในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ บ้านเราส่วนมากจะใช้มอเตอร์ไซค์...
Road Bike (จักรยานประเภทถนน)    
จักรยานประเภทถนน (Road bike) จักรยาน ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อขี่บนถนน ทั่วไปที่เป็นทางค้อนข้างเรียบ เช่น ถนนลาดยางมะตอย หรือ ถนนคอนกรีต จักรยานประเภทนี้ ที่เรามักเรียกกันว่า "จักรยานเสือหมอบ" นั่นแหละครับ จักรยาน ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ใช้ความเร็วได้สูงกว่าจักรยานประเภทอื่นๆ สังเกตว่าล้อจักรยานประเภทนี้จะมีหน้ายางขนาดเล็กมาก เพื่อลดแรงเสียดทานกับพื่นถนน และ รูปทรงของจักรยานประเภทนี้ ก็จะมีลักษณะ ลู่ลมเพื่อลดแรงเสียดทานกับอากาศ จักรยานประเภทนี้ส่วนมากจะใช้สำหรับการแข่งขันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจักรยานประเภทนี้ก็ได้แยกย่อยซึ่งแบ่งตามลักษณะประเภทการแข่งขันดังนี้ Time Trial Bike
Mountain Bike (จักรยานเสือภูเขา)  
จักรยานเสือภูเขา  (Mountain bike) จักรยานประเภทนี้ถูกออกแบบมา เพื่อใช้งานแบบออฟโรด เช่น ใช้ขี่ขึ้นเขา ขี่ตามทางที่ข้อนข้างวิบาก หรือ ถนนลูกลัง จักรยานประเภทนี้จะถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงมากกว่าจักรยานประเภทอื่นๆ จักรยานประเภทนี้อุปกรณ์ จะเยอะมาก เช่น มี โช้ค หน้า หลัง, เกียร์ 16 - 28 เกียร์ ส่วนราคา ก็จะแพงกว่าจักรยานประเภททั่วไปมาก เริ่มตั่งแต่หลักพัน ไป จนถึงหลักแสน เลยที่เดียวครับ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ต่างๆที่นำประกอบ และ วัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิต มีตั้งแต่ เหล็กธรรมดาไปจนถึงระดับที่ใช้ คาร์บอนไฟเบอร์ มาเป็นวัตถุดิบในการผลิตจักรยาน และ ชิ้นส่วนต่างๆ โดย ส่วนมากแล้วจักรยานที่ใช้อุปกรณ์...

Utility Bike (จักรยานทั่วไป) 
จักรยานทั่วไป (Utility bicycles) จักรยานประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไป เช่น ไปจ่ายตลาด, ใช้ขี่ไปทำงาน และใช้งานทั่วไป หรือ ที่เราเรียกว่า จักรยานแม่บ้าน นั่นแหละครับ โดย ส่วนมากจักรยานประเภทนี้จะถูกออกแบบมาให้สามารถ ใช้งานได้ง่ายไม่มีฟังชั่นอะไรมากมาย เพื่อง่ายต่อการบำรุงรักษา บางยี่ห้ออาจจะเพิ่มออฟชั่นเข้าไป เช่น เกียร์, ไฟส่องสว่าง, บังโคลน หน้า และ หลัง โดยทั่วไปแล้ว จักรยานประเภทนี้ราคาจะไม่ค่อยแพงมาก ราคา อาจจะเริ่มตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงหลักพัน คนทั่วไปสามารถหาซื้อมาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันได้ จักรยานประเภทนี้ ส่วนมากจะมีใช้กันทุกบ้านอยู่แล้วแทบจะเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชิวิตเลยก็ว่าได้ครับ..

ประวัตินักปั่นจักรยาน

ประวัตินักปั่นจักรยาน Fabian Cancellara             
        Fabian Cancellara เกิดวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1981 ปัจจุบันเขาอายุได้ 30 ปี ชื่อเล่นของเขาคือ "Spartacus"  Fabian เป็นชาว สวิทเซอร์แลนด์ หลายคนคงเคยรู้จักเขาคนนี้ ในฐานะนักปั่น จักรยาน ประเภท Time Trial ที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดในโลก ในขณะนี้ งั้นเรามารู้จักชีวิตในวัยเด็กของเขาก่อนนะครับ Fabian เกิดใน หมู่บ้าน "Wohlen bei Bern" ใกล้ๆ กับเมือง เบิร์น เขาเริ่มรู้จัก จักรยาน เมื่อเขาอายุได้ 13 ปี และเขามีพรสวรรค์ เป็นพิเศษ ในการปั่นจักรยานประเภท "Time Trial" ด้วยความมีใจรัก บวกกับ ความเหมาะสมทางด้านสรีระร่างกายของเขาที่เอื้อต่อการ ปั่นจักรยานประเภทนี้ ทำให้เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย โดยการที่เขาได้แชมป์โลกการแข่งขัน

ประวัตินักปั่นจักรยาน Jacques Anquetil           
       Jacques Anquetil เกิด วันที่ 1 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1934, และเขาได้เสียชีวิตลงใน วันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ 1987, เขาเป็นนักปั่น จักรยาน ชาวฝรั่งเศส และที่สำคัญเป็นนักปั่นชาวฝรั่งเศสคนแรกที่สามารถชนะรายการ Tour de France ถึง 5 ครั้ง โดยเขาสามารถทำได้สำเร็จในปี ค.ศ 1957 และ ค.ศ 1961 - 1964 โดยเขามีความสามารถที่โดดเด่นมากก็คือ การปั่น จักรยาน แบบ "Time Trial" จนเขาได้รับฉายาว่า "Monsieur Chrono"   ในวัยเด็กเมื่อเขาอายุได้ 17 ปี เขาได้รับใบอนุญาติแข่งขัน จักรยาน ครั้งแรกใน วันที่ 2 ธันวาคม 1950 และในเวลาต่อมา Anquetil ก็ได้ให้โค้ชชื่อ "Boucher" ช่วยแนะนำในการฝึกซ้อม ซึ่งทำให้ Anquetil มีพัฒนาการในการฝึกซ้อมคืบหน้าอย่างรวดเร็ว

ประวัตินักปั่นจักรยาน Bernard Hinault       
        Bernard Hinault เกิดวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ 1954 ปัจจุบันเขาอายุได้ 56 ปี เป็นชาวฝรั่งเศส เบอร์นาร์ด เป็น 1 ใน 5 นักปั่นจักรยานที่สามารถชนะ 3 รายการแกรนด์ทัวร์หลักที่ใหญ่ๆได้ครบหมด โดยเขาสามารถชนะรายการ ทัวร์เดอะฟรอง ถึง 5 สมัย รายการ Giro d' Italia 3 สมัย และ รายการ Vuelta Espana 2 สมัย เบอร์นาร์ด ได้ชื่อว่าเป็นนักปั่นจักรยานที่มีความ เด็ดขาดตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วในการที่จะทำให้ตัวเองได้ชัยชนะมาครอง และเขาจะไม่ปล่อยโอกาสที่เปิดให้สำหรับเขานั้นหลุดลอยไปเฉยๆ    เบอร์นาร์ด เริ่มการเป็นนักปั่นจักรยานอาชีพในปี ค.ศ 1974 โดยเริ่มแรกเขาได้เข้าสังกัดทีม The Gitane ในอีกสองปีต่อมา โดยในปี ค.ศ 1978 เขาก็สามารถประสบความสำเร็จ


ประวัตินักปั่นจักรยาน  Roger De Vlaeminck            
        Roger De Vlaeminck เขาเกิดวันที่ 24 สิงหาคม ปี ค.ศ 1947 เป็นนักปั่น จักรยาน ชาวเบลเยี่ยม ปัจจุบันเขาอายุได้ 63 ปี เขามีชื่อเล่นว่า "ยิปซี" เหตุที่เขามีชื่อเล่นนี้เพราะว่าเขาเกิดในครอบครัวของนักเดินทางอย่างแท้จริง คือครอบครัวของเขาจะไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน โดยจะอาศัยกันอยู่ในรถที่ตกแต่งภายให้เป็นบ้าน และครอบครัวของเขาก็ย้ายที่อยู่กันบ่อยครั้ง โรเจอร์ นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นนักปั่นจักรยานที่สามารถทำผลงานได้ดี ในรายการแข่งขัน จักรยาน ที่มีสภาพสนามเป็น แบบวิบาก เช่น การแข่งขันจักรยานรายการ "Paris Roubaix" และจากความสามารถอันโดดเด่นนี้เองทำให้เขาได้รับ ฉายาว่า "Monsieur Paris Roubaix"    ในวัยเด็กนั้น



ประวัตินักปั่นจักรยาน      RaymondPoulidor           
      เรย์มอนด์ "Raymond Poulidor" เกิดวันที่ 15 เมษายน ค.ศ 1936 ปัจจุบันเขาอายุได้ 74 ปี เป็นนักปั่นจักรยานชาว ฟรั่งเศส ครอบครัวของ เรย์มอนด์ ทำอาชีพเกษตรกร อยู่นอกหมู่บ้าน ของเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า "Masbaraud" ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Limoges ในสมัยที่เขายังเด็กชีวิตของเขาค่อนข้างจะลำบาก เพราะครอบครัวของเขาฐานะไม่ค่อยดี เขาจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว โดยเขาต้องออกจากโรงเรียนเพื่อมาหางานทำช่วยครอบครัวตอนอายุได้แค่ 14 ปี ถึงแม้ในใจของเขาอยากจะเรียนต่อก็ตาม แต่เหตุผลทางด้านการเงินนี้เองทำให้เขาต้องหยุดเรียนดังกล่าว    เรย์มอนด์ เริ่มการแข่งขันจักรยานในงานเฉลิมฉลองของหมู่บ้าน มันไม่ใช้การแข่งขันจักรยานแบบเป็นทางการอะไรมาก...
             
   

ประวัตินักปั่นจักรยาน Felice Gimondi      
     Felice Gimondi เกิดวันที่ 29 กันยายน ค.ศ 1942 เป็นชาว อิตาลี ปัจจุบันเขาอายุได้ 68 ปี Felice Gimondi เติบโตมาพร้อมกับความผูกพันกับจักรยานโดยแท้ เพราะแม่ของเขาเป็นผู้ให้บริการส่งไปรษณีย์ และต้องปั่นจักรยานส่งไปรษณย์อยู่เป็นประจำซึ่งส่วนใหญ่แล้วเขามักจะร่วมเดินทางไปกับแม่เพื่อส่งจดหมายเสมอทำให้เขามีความผูกพันกับจักรยานมากเป็นพิเศษ    Felice Gimondi เป็นนักปั่นจักรยานคนที่ 2 ต่อจาก Jacques Anquetil ที่สามารถชนะ 3 รายการแกรนด์ทัวที่สำคัญ คือ Tour de France, Giro d'Italia, และ รายการ Vuelta a Espana เพราะผู้ที่สามารถชนะรายการแข่งขันทั้งสามรายการได้นั้น มีเพียง 5 คนเท่านั้นและ Felice Gimondi ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่สามารถทำได้